วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขนมไทยโบราณที่หากินยากสุดๆ





 ขนมไทยโบราณที่หากินยากสุดๆ ทำเป็น งานเสริม งานหารายได้พิเศษ ยามว่างๆ ขนมพันตอง ทำเองที่บ้าน เป็นรายได้เสริม ทำเงินได้ดี แม่บ้าน คนว่างงานสามารถรับมาทำที่บ้านได้ทำได้ อร่อยและหายาก


     ขนมพันตอง แบ่งเป็น 2 ส่วน แยกเป็น 2 ห่อ ห่อแรกคือส่วนผสมของ

ไส้ ประกอบด้วยมะพร้าวกับน้ำตาลปี๊บ แล้วนำมาปั้นเป็นก้อน อีกห่อ

ประกอบด้วย หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาล แล้วตักใส่ห่อ เพื่อความ

อร่อยยิ่งขึ้นควรจะรับประทานพร้อมกัน เพราะตัวแป้งและตัวไส้จะอร่อย

กลมกล่อมอย่างลงตัว


9.ขนมลา




  ขนมลา เป็นขนมหวานพื้นบ้านของทางภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งทำ

มาจากแป้งข้าวเจ้า เป็นขนมสำคัญหนึ่งในห้าชนิดที่ใช้สำหรับจัดเพื่อนำไป

ถวายพระสงฆ์ในงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีที่

สำคัญของจังหวัดในภาคใต้ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัด

นครศรีธรรมราช สงขลาโดยอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ขนม

ลาปรุงขึ้นเพื่อเป็นเสมือนแพรพรรณเสื้อผ้า

8.ขนมเกสรชมพู่



 ขนมไทยโบราณ เมื่อได้มองครั้งแรกอาจจะคิดว่าขนมชนิดนี้คือ

“ข้าวเหนียวเเก้ว” แต่ถ้าพิศมองให้ดีจะเห็นถึงความแตกต่างอย่าง

ชัดเจน เพราะมีลักษณะแข็งกระด้างของข้าวเหนียว ส่วนเกสรชมพู่

จะดูนุ่มนวล อ่อนโยน ที่ทำจากมะพร้าวขูดขาว ผัดกับน้ำและน้ำตาล

ทราย ใส่วุ้นกวนให้เข้ากันใส่สีชมพูแก่ แล้วตักใส่ถ้วย เรื่องรสชาติ

เอกลักษณ์
7.ขนมโพรงแสม




     ขนมชนิดนี้ใช้ในพิธีแต่งงาน โดยแทนเสาบ้านเสาเรือน เพื่อให้คู่บ่าว

สาวอยู่กันยั่งยืนและร่ำรวย ลักษณะคล้ายๆขนมทองม้วน แต่ขนมชนิดนี้จะมี

ความแตกต่างอยู่ตรงที่มีน้ำตาลเคลือบพันร้อยอยู่ที่ตัวขนม เมื่อตัวขนมได้

ถูกบดขยี้กับฟันและลิ้นที่สัมผัสรส จะให้ความรู้สึกกรุบกรอบน่ากัดกิน ผสม

กับความหวานของน้ำตาลที่เคลือบขนมอย่างลงตัวไม่ที่ไม่หวานมากนัก ก็

ยิ่งทำให้ขนมชนิดนี้เหมาะสำหรับการกินเล่น 

6.ขนมตูโบ้


   ต้มบวดรวมมิตร อาหารหวานท้องถิ่นภูเก็ต ทำจากถั่วแดงเม็ดเล็ก

มันเทศ เผือก และแป้งมันสำปะหลัง  ต้มรวมกันในน้ำกะทิเติมน้ำตาลและ


เกลือพอให้มีรสหวานนำและเค็มปะแล่ม จะทานร้อนๆหรือเติมน้ำแข็งก็ได้


5.ขนมเทียนเเก้ว



 ขนมเทียนแก้ว หรือ ขนมนมสาว เปรียบเสมือนแสงสว่าง ลักษณะที่

สวยถูกต้อง ต้องปลายแหลม และฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส วางได้โดยไม่

เสียรูปทรง ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก กวนกับกะทิและน้ำตาลทราย

อบด้วยควันเทียน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ นำแป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม กวน


กับน้ำตาลทราย และน้ำลอยดอกมะลิ


4.ขนมสามเกลอ

  เป็นขนมเสี่ยงทายในพิธีแต่งงาน ถ้าขนมยังติดกันทั้ง 3 ลูกในขณะที่
ทอด หมายความว่า คู่บ่าวสาวที่จะแต่งงานจะอยู่ด้วยกันดี ตลอดจนมีลูก

ด้วยกัน แต่ติดกันอยู่เพียง 2 ลูก หมายความว่า มีลูกยากหรือไม่มี ถ้าแยก


หรือหลุดออกทั้ง 3 ลูก หมายความว่า อยู่ด้วยกันไม่ยืดยาว

3.ขนมตะลุ่ม





      ตะลุ่ม มีสองส่วน คือส่วนตัวขนม ทำแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม แป้ง

มันสำปะหลัง น้ำปูนใส และหางกะทิ นำไปนึ่งจนสุก ส่วนของตัวหน้า ได้แก่

หัวกะทิ ไข่ และน้ำตาล ใส่แป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย แล้วเทลงบนตัวที่สุกแล้ว


นำไปนึ่ง เวลาเสิร์ฟตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำหรือลักษณะตามชอบ

2.ขนมหม้อตาล




    เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในพิธีแต่งงาน เรียกว่า “หม้อเงิน หม้อทอง” ตัว

ถ้วยขนม ผสมแป้งสาลี น้ำเย็น ไข่แดง กรุแป้งในพิมพ์หม้อตาล อบให้สุก

ไส้ ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำเคี่ยวให้ข้น ตักใส่ถ้วย หยดสีตามต้องการ

หยอดลงในพิมพ์ ให้น้ำตาลแห้ง  


1.ขนมบุหลันดั้นเมฆ



  ลักษณะของขนมจะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ เป็นขนมชาววังคิดประดิษฐ์

ขึ้น ให้มีสีสันอุปมาอุปไมยเลียนแบบเพลงไทย‘บุหลันลอยเลื่อน’ ซึ่งเป็น

เพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 มี 2 ส่วน คือ ส่วนตัวขนม ทำจากแป้ง

ข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำดอกอัญชัน น้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล เมื่อนำ

ไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาล

มะพร้าว และนำไปนึ่งต่อจนสุก เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกถึงความหอม

หวานของน้ำดอกอัญชันกับกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว


หมดเเล้วค่ะ ใครเคยชิมอันไหนคอมเม้นบอกจขกท.ด้วยนะคะ

ขอบคุณเครดิตจาก http://www.toptenthailand.com   


เยี่ยม




































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น